วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Social Media เราสามารถนำมาประยุกต์กับการทำงานได้ยังไงบ้าง ?

Social Media เราสามารถนำมาประยุกต์กับการทำงานได้ยังไงบ้าง ?

Picture
1. Facebook เป็นโซเชียลยอดนิยมอันดับหนึ่งที่มีผู้ใช้มากที่สุด ไอเดียสำหรับการใช้เฟซบุคในการทำงานก็คือ การสร้างกลุ่มสังคมเครือข่ายในที่ทำงาน เพื่อการทำงานร่วมกันเป็นทีม แลกเปลี่ยนไอเดียความคิดเห็นในเรื่องงาน การสอบถามปัญหาในงานกับเพื่อนร่วมงานหรือผู้รู้ การนำเสนอผลงานที่     ต้องการฟีดแบค เป็นต้น
2. Twitter เหมาะสำหรับการรายงานสถานะความเคลื่อนไหวในการทำงาน การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เรื่องที่ต้องการจะประกาศให้ทราบ แจ้งข่าวสารกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ เพื่ออัพเดทความเป็นไปให้ทราบเป็นระยะ ๆ เช่น เถ้าแก่จะตื่นมาด้วยความสบายใจเมื่อเห็นข้อความสั้น ๆ เหมือนพาดหัวข่าวใน timeline ตอนเช้าว่า งานที่มอบหมายให้ลูกจ้างกลับไปทำต่อที่บ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยามกะดึกที่เฝ้าโกดังรายงานความสงบเรียบร้อยทุก ๆ 20 นาีที คนขับรถส่งสินค้าไปถึงท่าเรือได้ทันเวลา เป็นต้น
Picture
Picture
3. Youtube การถ่ายทอดผ่านวิดีโอ เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเข้าใจได้ดีมากขึ้นกว่าการอ่านผ่านตัวหนังสือ ดังนั้น ไอเดียในการนำยูทูปมาใช้ในการฝึกอบรมหรือการสาธิตวิธีการทำงานจึงเป็นประโยชน์อย่างมาก ในการพัฒนาความรู้ทักษะของพนักงาน นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการสัมภาษณ์พนักงานได้อีกด้วย เช่น เมื่อมีผู้สมัครงานที่น่าสนใจจะรับเข้าทำงาน ก็ให้ผู้สมัครแนะนำตัวและตอบคำถามตามหัวข้อที่แจ้งไว้ อัดวิดีโอส่งผ่านยูทูปมา ก็จะลดต้นทุนได้ทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้สัมภาษณ์ และผู้ถูกสัมภาษณ์ เป็นต้น
4. Instagram เน้นการโพสต์รูปภาพ แชร์รูปภาพเป็นหลัก เอามาประยุกต์ใช้ในการรายงานด้วยภาพ เช่น ภาพกิจกรรมต่าง ๆ การสัมมนา การประกวด การมอบของรางวัล การทำงานที่เสี่ยงอันตราย ชิ้่นงานที่ได้คุณภาพ ตัวอย่างของเสีย กิจกรรมนอกสถานที่ การแข่งกีฬา การดูงาน การทำ 5ส. สภาพแวดล้อมในสถานประกอบการ ฯลฯ หรือนำมาใช้เป็นภาพประกอบในการแจ้งเรื่องร้องเรียน หรือข้อเสนอแนะไคเซ็น เป็นต้น
Picture
Picture
5. Skype เอาไว้ใช้งานเวลามีประชุมทางไกล ออนไลน์แบบเห็นหน้ากันเรียลไทม์ ต้นทุนต่ำแต่ระดับปฏิสัมพันธ์สูง นอกจากนี้ยังประยุกต์ใช้ในการนัดหมายสัมภาษณ์งานทางไกลได้ด้วย ทั้งผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์ต้องมีอุปกรณ์และเวลาที่ตรงกัน จำลองสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมให้เหมือนเจอตัวจริงกันเป็นๆ
6. Google Docs นำมาใช้ในการจัดการไฟล์เอกสารร่วมกัน จะได้ไม่ยุ่งยากในการเซฟข้อมูลเป็นหลายไฟล์ สามารถแก้ไขเอกสารร่วมกันได้ แล้วเซฟเป็นไฟล์ที่อัพเดทล่าสุดเป็นไฟล์เดียว ทีมงานสามารถอัพโหลด ดาวโหลด ไฟล์งานไว้ในโฟลเดอร์กลางที่ทุกคนต้องใช้งานร่วมกัน นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาใช้ทำแบบสอบถามออนไลน์ได้อีกด้วย ลดภาระการถ่ายเิอกสารแจกจ่ายไปยังทุกแผนก ซึ่งสิ้นเปลืองกระดาษแถมยังไม่ได้รับการตอบกลับอีกต่างหาก
Picture
Picture
7. Blog เอาไว้ใช้เขียนบทความ หรือข้อความที่มีเนื้อหารายละเอียดมากหน่อย ซึ่งเฟซบุค หรือทวิตเตอร์มีข้อจำกัด สามารถเขียนรีวิว เขียนรายงาน เขียนบันทึกการทำงาน ข้อค้นพบ การแก้ไขปัญหาในงาน ซึ่งสามารถใส่ภาพประกอบได้ เป็นการบันทึกข้อมูลที่เป็นหลักฐานอ้างอิงที่ดีไว้สำหรับประเมินผลการปฏิบัติงาน เช่น หัวหน้าที่ได้อ่านไดอารี่การทำงานของพนักงานก็จะสามารถตรวจสอบการทำงานย้อนหลัง และประเมินผลงาน หรือดูพัฒนาการของลูกน้องได้
8.  Webboard เอาไว้ตั้งกระทู้ สอบถามปัญหาในงาน หรือเรื่องต่าง ๆ ที่พนักงานสนใจ เช่น รับสมัครพนักงาน สวัสดิการพนักงาน นโยบาย กฎระเบียบข้อบังคับ ฯลฯ หรือเอาไว้ใช้ประกาศตำแหน่งงานว่างในองค์กร หรือตั้งกระทู้สำหรับระดมสมอง ประชันไอเดีย รับฟังข้อเสนอแนะ ประกาศขายสินค้าออนไลน์ เป็นต้น 
Picture

Social Media Marketing คืออะไร ?

การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย (SocialMediaMarketing)
   โซเชียล เน็ตเวิร์ก (Social network) คือ แหล่งแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล และสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันผ่านโลกอินเตอร์เน็ต โดยในปัจจุบันโซเชียล เน็ตเวิร์ก เข้ามามีอิทธิพลในชีวิตประจำวันไม่เฉพาะคนทั่วไป แต่รวมไปถึงภาคธุรกิจ หลายภาคส่วน ที่ให้ความสนใจ และความสำคัญ เพื่อให้โซเชียล เน็ตเวิร์ก เป็นเครื่องมือสำหรับค้นหาและติดต่อสื่อสารไปสู่ผู้ใช้งานต่างๆ เพื่อจูงใจให้เป็นลูกค้า สร้างความเชื่อมั่นในตัวสินค้าและบริการ รวมทั้งปรับปรุงคุณภาพของแบรนด์ไปในตัวด้วย.
        สำหรับโซเชียล มีเดีย มาร์เก็ตติ้ง(Social media maketing) เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดผ่านการสื่อสารรูปแบบหนึ่ง สำหรับติดต่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้หลักการด้านโฆษณา,ด้านประชาสัมพันธ์,ด้านการขาย และอื่นๆ ผ่านผู้ให้บริการด้านโซเชียล มีเดีย ต่างๆเช่น เฟสบุ๊ค(Facebook),ทวิตเตอร์ (Twitter),ยูทูบ (Youtube),ฟลิคเกอร์(Flickrs) และอื่นๆ.คุณสามารถค้นหา,เชื่อมต่อ,วางแผนแคมเปญ ไปสู่ผู้ใช้บริการเหล่านี้เพื่อโอกาสในการขยายธุรกิจของคุณ อย่าลังเลที่จะเปิดประสบการณ์ทางการตลาดรูปแบบใหม่ไปกับเรา.

Picture
กลยุทธ์ Social Media Marketing กับการสร้างรายได้บนโลกอินเทอร์เน็ต
1.กลยุทธ์ Social Media Marketing กับการเพิ่มยอดขาย 
      แม้ว่าจำนวนคนกด Like และ Follower หรือผู้ติดตามจะเป็นตัววัดผลที่นักการตลาดหลายคนใช้เป็นตัววัดผลหลักกับแบรนด์สินค้าที่กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นในการทำการตลาดผ่าน Social Media ในการสร้าง Brand Awareness หรือการรับรู้ต่อแบรนด์แก่ผู้บริโภค แต่อันที่จริงแล้วตัววัดผลหลักของการทำ Social Media Marketing นั้นคือการสร้างกำไร หรือยอดขายสินค้า และบริการในแบรนด์เหล่านั้นซึ่งเป็นอะไรที่นักการตลาดออนไลน์ฟันธงว่าวัดผลได้ยากที่สุด
      บางครั้งอาจจะต้องใช้การคิดโปรโมชันที่โดนใจจากการสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภคต่อแบรนด์ของเราให้ครอบคลุมก่อน แล้วจึงใช้ Social Media ในการส่งข้อความ ให้แก่ผู้บริโภคเพื่อเพิ่มยอดขายทั้งออฟไลน์ และออนไลน์น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดของการทำ Social Media Marketing ซึ่งจะเห็นได้ว่าไอเดียในการคิดโปรโมชันที่ครอบครุม และอาศัยหลักการเพิ่มยอดขายนี่เองที่ควรจะเป็นตัววัดผลอันดับหนึ่ง แล้วจึงใช้ตัวเลขของ Like และ Follower บน Social Media มาเป็นตัววัดผลรองลงมา
Picture
2.การสร้างช่องทางเข้าถึงข้อมูลผู้สินค้าให้แก่เบรนด์ผ่าน Social Media
      แน่นอนว่าตัววัดผลต่อไปในการทำ Social Media Marketing นั้นคือการเพิ่มTraffic ในการเข้าถึงสื่อ และข้อมูลของสินค้าซึ่งสวนมากเราจะเห็นใน Social Media ของแบรนด์ขนาดใหญ่ เช่น Coca Cola และ Adidas เป็นต้น บางครั้ง Trafficที่จะเพิ่มเป็นช่องทางให้ผู้บริโภคได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์สินค้าของเราก็ต้องอาศํยหน้า Landing Page หรือ Microsite ไปจนถึง YouTube Channel ในการให้ข้อมูลเชิงลึกที่บอกถึง Benefit หรือข้อดีให้แก่ผู้บริโภคด้วยเงื่อนไขต่างๆ และอย่าลืมวัดผล Traffic ที่เราสร้างขึ้นไม่ว่าจะผ่านทาง Social Media หรือ Traffic โดยตรงอาจจะต้องมีการติดตามตั้งเป้าหมายให้ดี เช่นการตั้ง Goal ในการวัดผลการเข้าถึงหน้าต่างๆ ใน Google Analytics เป็นต้น
Picture
3.จำนวน (Quantity) หรือ คุณภาพ (Quality)
      แน่นอนว่าแต่ละองค์กร หรือแต่ละแบรนด์ที่มีการใช้ Social Media ในการทำแคมเปญโฆษณา ส่วนมากแล้วมักจะใช้ Facebook และTwitter เป็นเครื่องมือหลัก อีกทั้งนักการตลาดที่ดูแลแบรนด์ขององค์กรเหล่านี้มักจะใช้จำนวนของการกด Like ที่หน้าFan Page Facebook และจำนวนFollower บน Twitter เป็นหลัก อันที่จริงจำนวนของ Like และ Follower  เหล่านี้ก็มีผลต่อการวัดผล ROI ของธุรกิจที่ทำได้แบบเห็นชัดที่สุดแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นการการันตีคุณภาพ (Quality) ที่องค์กร หรือแบรนด์สินค้าเหล่านั้นจะได้จากจำนวนผู้ที่กด Like และ Follower ซึ่งอาจจะสรุปได้เพียงแค่ว่ามันวัดผลได้แค่มิติเดียวทั้งที่ Social Media Marketing นั้นมันมีมากถึง 3 มิติแน่นอนว่าแต่ละองค์กร หรือแต่ละแบรนด์ที่มีการใช้ Social Media ในการทำแคมเปญโฆษณา ส่วนมากแล้วมักจะใช้ Facebook และTwitter เป็นเครื่องมือหลัก อีกทั้งนักการตลาดที่ดูแลแบรนด์ขององค์กรเหล่านี้มักจะใช้จำนวนของการกด Like ที่หน้าFan Page Facebook และจำนวนFollower บน Twitter เป็นหลัก อันที่จริงจำนวนของ Like และ Follower  เหล่านี้ก็มีผลต่อการวัดผล ROI ของธุรกิจที่ทำได้แบบเห็นชัดที่สุดแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นการการันตีคุณภาพ (Quality) ที่องค์กร หรือแบรนด์สินค้าเหล่านั้นจะได้จากจำนวนผู้ที่กด Like และ Follower ซึ่งอาจจะสรุปได้เพียงแค่ว่ามันวัดผลได้แค่มิติเดียวทั้งที่ Social Media Marketing นั้นมันมีมากถึง 3 มิติ
4.การสร้างช่องทางเข้าถึงข้อมูลผู้สินค้าให้แก่เบรนด์ผ่าน Social Media
     แน่นอนว่าตัววัดผลต่อไปในการทำ Social Media Marketing นั้นคือการเพิ่มTraffic ในการเข้าถึงสื่อ และข้อมูลของสินค้าซึ่งสวนมากเราจะเห็นใน Social Media ของแบรนด์ขนาดใหญ่ เช่น Coca Cola และ Adidas เป็นต้น บางครั้ง Trafficที่จะเพิ่มเป็นช่องทางให้ผู้บริโภคได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์สินค้าของเราก็ต้องอาศํยหน้า Landing Page หรือ Microsite ไปจนถึง YouTube Channel ในการให้ข้อมูลเชิงลึกที่บอกถึง Benefit หรือข้อดีให้แก่ผู้บริโภคด้วยเงื่อนไขต่างๆ และอย่าลืมวัดผล Traffic ที่เราสร้างขึ้นไม่ว่าจะผ่านทาง Social Media หรือ Traffic โดยตรงอาจจะต้องมีการติดตามตั้งเป้าหมายให้ดี เช่นการตั้ง Goal ในการวัดผลการเข้าถึงหน้าต่างๆ ใน Google Analytics เป็นต้น
5.สร้างความรับรู้ของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์
    Brand Reputation หรือการเพิ่มความรับรู้ต่อแบรนด์เป็นตัววัดผลอีกตัวที่ไม่ควรจะละเลย แน่นอนว่าหลักการให้อธิบายอาจจะซับซ้อนเล็กน้อย อาจจะต้องอาศัย Common Sense ในการคิดตาม อย่าง เราจะทำยังไงที่ผู้คนจะทราบว่านี่คือแบรนด์ของเราในเหตุการณ์ที่เราได้สร้างขึ้น หรือ Viral  Marketing  นั่นเองทำยังไงให้เกิดประเด็นสินค้า และแบรนด์ของเราได้เป็น "ข่าวหน้าหนึ่ง" หรือ "ประเด็นเด่น" บนโลกออนไลน์ได้ หากมีประเด็นที่มีอยู่แลว และดังอยู่แล้วในเรื่องของสินค้า และแบรนด์ของเราผ่านSocial Media ก็เตรียมตัวสร้างแคมเปญพิเศษที่จะเร่งจำนวนผู้สั่งซื้อสินค้ากลุ่มเป้าหมายของเราจากโลกออนไลน์บน Social Media หรือเว็บไซต์ให้ย้ายไปสู่ร้านค้าบนโลกแห่งความเป็นจริงนั่นเอง  จะเห็นว่า Social Media  Marketing นั้นให้ผลลัพธ์ในด้านธุรกิจได้ดี และชัดเจนรวดเร็ว
Picture
อีกทั้งยังสามารถสร้างยอดขายสินค้า และบริการได้แปลกใหม่มีประสิทธิภาพเอาเป็นว่า หลักการที่อธิบายมาข้างต้นหากผู้อ่านทำความเข้าใจและตีประเด็นออกจะเห็นว่า Social Media ที่เราเล่นกันสนุกสนานนั้นจริงๆ แล้วเป็นเครื่องมือทำเงินมากมายให้แก่เราได้โดยไม่รู้ตัวเลย ยังไงก็ลองเริ่มตันกับ Social Media Marketing กันได้แล้วครับหากว่ายังลังเลกับมันอยู่Brand Reputation หรือการเพิ่มความรับรู้ต่อแบรนด์เป็นตัววัดผลอีกตัวที่ไม่ควรจะละเลย แน่นอนว่าหลักการให้อธิบายอาจจะซับซ้อนเล็กน้อย อาจจะต้องอาศัย Common Sense ในการคิดตาม อย่าง เราจะทำยังไงที่ผู้คนจะทราบว่านี่คือแบรนด์ของเราในเหตุการณ์ที่เราได้สร้างขึ้น หรือ Viral  Marketing  นั่นเองทำยังไงให้เกิดประเด็นสินค้า และแบรนด์ของเราได้เป็น "ข่าวหน้าหนึ่ง" หรือ "ประเด็นเด่น" บนโลกออนไลน์ได้ หากมีประเด็นที่มีอยู่แลว และดังอยู่แล้วในเรื่องของสินค้า และแบรนด์ของเราผ่านSocial Media ก็เตรียมตัวสร้างแคมเปญพิเศษที่จะเร่งจำนวนผู้สั่งซื้อสินค้ากลุ่มเป้าหมายของเราจากโลกออนไลน์บน Social Media หรือเว็บไซต์ให้ย้ายไปสู่ร้านค้าบนโลกแห่งความเป็นจริงนั่นเอง  จะเห็นว่า Social Media  Marketing นั้นให้ผลลัพธ์ในด้านธุรกิจได้ดี และชัดเจนรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถสร้างยอดขายสินค้า และบริการได้แปลกใหม่มีประสิทธิภาพเอาเป็นว่า หลักการที่อธิบายมาข้างต้นหากผู้อ่านทำความเข้าใจและตีประเด็นออกจะเห็นว่า Social Media ที่เราเล่นกันสนุกสนานนั้นจริงๆ แล้วเป็นเครื่องมือทำเงินมากมายให้แก่เราได้โดยไม่รู้ตัวเลย ยังไงก็ลองเริ่มตันกับ Social Media Marketing กันได้แล้วครับหากว่ายังลังเลกับมันอยู่